สัมผัส NISSAN KICKS e-POWER ในมุมที่คุณอาจจะไม่รู้จัก

สัมผัส NISSAN KICKS e-POWER ในมุมที่คุณอาจจะไม่รู้จัก

เทคโนโลยี e-POWER จากนิสสัน เป็นเทคโนโลยีที่ทั่วโลกรู้จัก จากความสำเร็จก้าวแรกที่เปิดตัวให้สัมผัสความเร้าใจที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่แรกของโลก ในปี 2016 ใน NISSAN NOTE e-POWER และในปี 2018 ใน NISSAN SERENA e-POWER และเพื่อตอกย้าความสาเร็จของเทคโนโลยี e-POWER อย่างต่อเนื่อง กับการเปิดตัวของ NISSAN KICKS e-POWER ในประเทศไทย

โดยเทคโนโลยี e-POWER จากนิสสัน เป็นเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% จากแนวคิดการพัฒนาพลังงานทางเลือกที่คานึงถึงความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง เพียงแค่เติมน้ามันตามปกติ เหมือนรถยนต์ทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจาวัน ไม่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน อีกทั้งยังประหยัดน้ามัน พร้อมราคาเริ่มต้นที่จับต้องได้
NISSAN KICKS e-POWER มาพร้อมความพิเศษที่เหนือใคร ในเรื่องของความแรงที่เกินไปกว่า Segment เดียวกัน ขับสนุกและง่ายแบบรถไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่คุ้มกับค่าตัว

และในวันนี้เราจะมาเจาะลึกรายละเอียดในบทความ จากมุมมองที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับ NISSAN KICS e-POWER และสิ่งที่ทาให้ที่ทาให้รถคันนี้ไม่เหมือนรถยนต์คันไหน ๆ

เทคโนโลยี e-POWER จากนิสสัน

สิ่งที่ทำให้ เทคโนโลยี e-POWER มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมก็คือ การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% โดยใช้เครื่องยนต์น้ำมันเป็นตัวผลิตกระแสไฟฟ้า ข้อดีที่ทำให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องวางแผนการเดินทาง ใช้งานได้อย่างปกติเหมือนรถทั่วไป แต่ให้ความประหยัดกว่า (อีโค่สติ๊กเกอร์ 23.8 กม./ล.) ทั้งยังบำรุงรักษาง่าย

โดยเครื่องยนต์น้ำมัน ทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับระบบขับเคลื่อน ช่วยให้ประหยัดน้ำมันสูงสุด โดยในการเติมหนึ่งครั้งสามารถเดินทางได้มากถึง 900 กิโลเมตรเลยทีเดียว* และเปลี่ยนน้ำมันที่เติมเข้าไปเป็นกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ที่แบตเตอรีลิเธียม-ไอออน และส่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ อีกทั้งความแรงของเครื่องยนต์นี้ไม่ธรรมดา เพราะสามารถเร่งความเร็ว 0-100 ต่ำไม่เกิน 9.5 วินาที* จากกำลังแรงม้าสูงสุด 129 และแรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน/เมตร* การที่คุณจะสัมผัสความแรงระดับนี้จะได้ในรถที่มีเครื่องยนต์ 1,800 cc ขึ้นไป นอกจากนี้หากพิจารณาแรงบิดของรถจะเทียบได้กับรถเครื่องยนต์ 2,000 cc Turbo เลยทีเดียว ซึ่งราคาเริ่มต้นแพงกว่า NISSAN KICKS e-POWER อย่างแน่นอน

*อ้างอิงจากตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ NISSAN KICKS e-POWER จากเว็บไซต์ Nissan.co.th

ภาพลักษณ์แห่งความเร้าใจ

NISSAN KICKS e-POWER นำเสนอดีไซน์ของรถที่แตกต่างกับรถยนต์คันอื่น ๆ ในรุ่น Compact SUV เดียวกัน โดยเริ่มจากสีของตัวรถที่สะท้อนตัวตนของรถออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยดีไซน์ภายนอกถึง 12 สี

ทั้งนี้สำหรับดีไซน์ภายนอก ในส่วนของด้านหน้ายังคงเอกลักษณ์ของความเป็น NISSAN แต่เสริมความทันสมัย บริเวณหน้าของตัวรถโดดเด่นด้วยกระจังหน้า V-Motion พร้อมกับสัญลักษณ์ NISSAN เข้ากับไฟหน้า LED ที่เพิ่มความพรีเมียมให้กับรถให้โดดเด่นกว่าเดิม

ด้านกระจกข้างมาพร้อมกับไฟเลี้ยว LED ที่พับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ และล้ออัลลอยแบบทูโทนที่เสริมความสปอร์ตให้กับตัวรถ
พร้อมกับด้านท้าย ที่โดดเด่นไม่แพ้ด้านหน้ากับไฟท้ายที่ได้รับการออกแบบใหม่ แบบบูมเมอร์แรงพร้อมไฟ LED เพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่และเสริมภาพลักษณ์ของตัวรถให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

ภายในของตัวรถจะมีวัสดุภายในให้เลือกถึง 3 รูปแบบ โดยวัสดุหุ้มเบาะในรุ่น S และ E จะหุ้มด้วยวัสดุผ้าสีดำ แต่รุ่น V จะหุ้มด้วยวัสดุหนังสีดำ และพิเศษไปกว่านั้น สำหรับรุ่นท็อป VL จะเป็นวัสดุหนังสีทูโทน ดำ – ส้ม

นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อออนไลน์กับหน้าจอ Nissan Connect ขนาด 8 นิ้ว รองรับการใช้ Apple CarPlay และ Android Auto ให้คุณสะดวกกับการขับขี่ในทุก ๆ วัน

มีโปรโมชันให้คุณเสมอ รับประกันยาวนาน

สิ่งที่ทำให้ NISSAN KICKS e-POWER น่าสนใจนอกจากตัวรถแล้วคือเรื่องของโปรโมชัน ที่มีให้คุณเลือกมากมาย แต่หากจะให้เลือกโปรโมชันที่คุ้มค่าที่สุดในเวลานี้ คือ “เป็นเจ้าของ NISSAN KICKS e-POWER วันนี้ รับข้อเสนอ 3 ต่อ ด้วยสิทธิพิเศษที่มากกว่า ได้แก่ 

ต่อที่ 1 : รับดอกเบี้ย 0% นาน 60 เดือน พิเศษ ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

ต่อที่ 2 : ฟรี แพ็กเกจขับสบายหายห่วง 5 ปี ประกอบไปด้วย

– รับประกันรถใหม่ 5 ปี/ e-POWER 5 ปี/แบตเตอรี่ 10 ปี

– ฟรี แพ็กเกจเช็กระยะ SAVE SAFE Platinum Package พร้อมส่วนลดอะไหล่ 10% นาน 5 ปี

– ฟรี บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน 24 ช.ม. 5 ปี

ต่อที่ 3 : ฟรีชุดแต่งพิเศษ Stylish Package 

“เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด”

เริ่มต้นที่ 8.89 แสนแต่สิ่งที่ได้คุ้มค่าทุกบาท ทุกสตางค์

หากเราเอารถไปเทียบกับรถรุ่นอื่น ๆ จะเห็นได้ว่า NISSAN KICKS e-POWER ได้มอบสองอย่างที่ทำให้คุณตัดสินใจ เป็นเจ้าของได้อย่างไม่ยากเย็น คือเรื่องของเทคโนโลยี e-POWER จากนิสสัน ที่เป็นจุดเด่นหลักของตัวรถ ที่แรงเกินกว่าขนาดเครื่องยนต์ เมื่อเทียบกับรถประเภทเดียวกัน ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จับต้องได้ ให้ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

ประการที่สองคือเรื่องของการรับประกัน ที่ถือได้ว่าคุ้มค่ามาก ๆ เพราะทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องของการใช้งาน นอกจากนี้ในการบำรุงรักษาก็ดูแลง่าย ราวกับว่ารถ Eco Car เพียงแค่หมั่นตรวจเช็กระยะทุก ๆ 6 เดือนหรือ 10,000 กิโลเมตร

นอกจากนี้การที่ขยับไปรุ่น VL ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่สุด ความคุ้มค่ายิ่งเพิ่มขึ้น เพราะได้ในส่วนของดีไซน์ภายนอกและภายในแบบทูโทน พร้อมระบบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ทำให้คุณสามารถขับรถรุ่นนี้ได้นานกว่าเดิมไปอีกหลายปี

สรุปท้ายบทความ

จะเห็นได้ว่า NISSAN KICKS e-POWER นั้นถือว่าเป็นรถที่น่าสนใจมาก ๆ โดยชูจุดเด่นในเรื่องของความทันสมัย และเทคโนโลยี e-POWER จากนิสสัน พร้อมจะนำพาคุณไปในทุกที่ ทั้งยังให้ความแรงเร้าใจในทุกการขับขี่ และมอบความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างจากรถยนต์อื่นโดยสิ้นเชิง ทั้งยังขับแบบไร้กังวล เพราะมาพร้อมกับแพ็กเกจขับสบายหายห่วง 5 ปี ดังนั้นหากคุณกำลังคิดว่าราคานี้คุ้มค่าหรือเปล่า บอกเลยว่า “คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม”

พิเศษสำหรับท่านที่กำลังอ่านบทความ ลงทะเบียนกับ Kaidee Auto วันนี้ รับสิทธิพิเศษและโปรโมชันสำหรับคุณโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของรถ NISSAN KICKS e-POWER ได้ง่ายและคุ้มค่ากว่าใคร

สอบถามข้อมูลอื่นๆ หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

กรุณาสแกนคิวอาร์โค้ด หรือเพิ่มเพื่อนด้วยไอดีไลน์ @kaideeofficial